...My Diary...


วันที่เหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้น
วันที่ 2 สิงหาคม 2554

              เป็นวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง เป็นช่วงที่เหมือนจะสบายเพราะพึ่งสอบเสร็จ แหละรอคะแนนออก จึงเป็นช่วงที่ได้เที่ยว กับเพื่อน เลี้ยงสังสรรค์ และไปไหนต่อไหน เพราะยังไม่มีการบ้าน  ตื่น มาเวลา สายนิดๆ กับการเรียนวิชา ในตอนเช้า ในช่วงเวลา 10 โมง เข้าห้องเรียนสายนิดหน่อย แต่อาจารย์ก็ยังไม่เข้าสอน การเรียนวิชา Web base ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า เหมือนจะรู้สึกง่วงนอน ทั้งที่นอนเต็มอิ่มและได้คุยโม้กับเพื่อนๆ โดยไม่ได้สนใจวิชาเรียน คุยกันเรื่องต่างๆนานา ภาพยนต์ ผู้หญิง ฟุตบอล นินทาช่าวบ้าน ทำให้หายง่วงนอน โดยไม่รู้เรื่องที่อาจารสอนเลย จนถึงเวลาอาหารเที่ยง ก็กินข้าวกับเพื่อนกันตามปกติที่โรงอาหาร ที่เต็มไปด้วยรุ่นน้อง เพราะเราปี 3 แล้วนี่หว่า กินกับข้าวเดิมๆ กับร้านที่ให้น้อย พอกินข้าวเที่ยงเสร็จกัน ก็ได้ไปเรียนต่อ วิชา กฎหมาย ก็คงเหมือนเดิมการเรียนที่ฟังอาจารย์บรรยาย แรกๆตั้งใจฟังได้ซักครึ่งชั่วโมง ก็เหมือนหมดแรง ง่วงนอน ซักพัก ก็นั่งโม้กับเพื่อนๆต่อเฮฮา โดยไม่สนใจในวิชาเรียนอีกแหละ ถึงช่วง พักเบรค พวกเราก็ได้ไปหาอะไรกินกัน ได้เจอเพื่อนสาขาอื่นอีกเยอะแยะ ที่นี้แหละโม้กันยาวไม่ยอมขึ้นเรียน ซักพักมีเพื่อนโทรมา มีทดสอบในห้อง พวกเราเลยรีบกันใหญ่ ต้องมานั่งทำแบบทดสอบ โดยที่ไม่รู้เรื่องเนื้อหาเลยหมดเวลาการสอน ผมก็ได้กลับมายังที่พัก สิ่งที่ทำ เล่นคอมเช็คเฟสบุ๊ค ส่องอ่านดูกระทู้ ที่ใครต่อใครตั้งอะไรก็ไม่รู้ ที่มาบอกให้ชาวบ้านรับรู้ ซึ่งผมก็ทำเช่นกัน เหมือนจะทันเหตุการณ์ในเรื่องชาวบ้านเค้า ซักพักก็ง่วงนอน เข้านอนและก็ตื่นมา 5 โมงครึ่งแหละ ถึงเวลาอาหารเย็น ทั้งที่คิดเหมือนว่าพึ่งกินไปนี่หว่าไม่ค่อยรุ้สึกว่าหิวแต่ก็ต้องกินตามมารยาท คำถามที่ถามกับเพื่อน กินร้านไหนดีวะ คำถามโลกแตก บอกไม่ถูกจะกินที่ไหน ณ ประเทศตรังแห่งนี้หาที่กินข้าวยากจัง แต่ก็ไปกินที่ร้านตะวันรอน กับรสชาติเดิมๆ เสร็จสิ้น ช่วงอาหารเย็น กลับมาบ้านกับการเล่นคอม เรื่อยๆ แต่ดูสึกว่าอินเตอร์เน็ต ที่บ้านจะเน่า และถึงขั้นเล่นไม่ได้ในที่สุด อะไรกันหว่า TOT กับความเร็ว 6 MB เซ็งที่สุด นึกขึ้นได้ เกมในเฟส ยังไม่ได้อัตเดท งานเข้าแหละ ไปเล่นบ้านเพื่อนดีกว่า ขับรถออกไป ที่บ้านเพื่อนไปแย่งเพื่อนเล่นคอม พอไปถึง เพื่อนดันบอก ข่าวที่ไม่อยากฟังคือ คะแนน เว็บ ดีไซ ออกแล้วไปดูกันเร็ว ความคิดแรก ตกอีกแน่ เห้อ ออกเร็วจังวะ และได้เข้า ไปดูกับเพื่อนใน มหาลัย ชื่่อเราอยู่นี่ไง นั้น ตกมีน โอ้วตามคาด เพื่อนๆละ ผ่าน มึน โว้ยๆเก่งจิงๆ กลับมาที่บ้านเพื่อนกลับมาด้วยอารมณ์ เซ็งๆ เล่นคอมเพื่อนเพื่อเช็คเกมในเฟส ซักพักได้กลับมาบ้าน เพื่อมาเล่นที่บ้านต่อ พอถึงบ้านอะไรหว่า เน็ต ยังเล่นไม่ได้ โอ้วเวรกำนั่งเล่นกีต้าร์อยู่พักหนึ่ง เพราะไม่รู้จะทำอะไร คิดว่ากลับไปเพื่อนดีกว่า เผื่อมีอะไรทำ ได้โม้กับเพื่อนดีกว่า เวลาตอนนั้น น่าจะ สี่ทุ่มแล้วมั้ง ได้ออกไปบ้านเพื่อนอีกครั้ง เอารถออก แล้วขับรถ FINO คู่ใจ ออกจากบ้านไป ไฟหน้ามอ ณ ตอนนั้นไฟมืดสนิท ทุกอย่างดูมืดไปหมด ตัวผมเองก็รุ้สึกว่าจะมืดไปตามแสงไฟเพราะทุกอย่างดูเหมือนว่างเปล่า นี่เกิดอะไรกับผม.....
                     (จากคำเล่าเหตุการณ์ของคนที่เห็นเหตุการณ์และเพื่อนๆ)
                   จากที่ผมขับรถออกมา ระยะทางเกือบที่จะถึงร้าน ที่ร้าน สุงสิง ที่เป็นขายเครื่องดื่ม มีหมาตัวหนึ่งสีน้ำตาลได้วิ่งตัดหน้ารถของผม ผมได้เบรคกระทันหันผมพยุงตัวรถไม่อยุ่เสียหลักล้มลงผมได้ล้มตกลงจากรถหัวกระแทกพื้น รถได้กระเด็นไปหน้าร้านสุงสิง ผมไม่ได้สติตั้งแต่ตอนนั้น หมาตัวที่วิ่งตัดหน้าผมได้วิ่งตัดไปอีกเลน ก็เกือบจะตัดรถรุ่นน้องอีกคัน แต่น้องเบรคทันน้องได้คนนั้นได้เห็นเหตุการ เห็นไฟ ที่เกิดจากรถผม กระแทกกับถนนน้องเค้าได้จอดดูและได้ผมซึ่งนอน เกิดอาการชัก อยุ่ ณ จุดที่เกิดอุบัติเหตุ น้องคนนั้นได้เข้าไปประคองหัวผม ซึ่งตอนนั้นรุ่นพี่ ที่อยู่ร้าน สุงสิง ได้มาดูเหตุการณ์กัน น้องคนที่มาประคองหัวผม ได้อุ้มตัวไปที่เกาะกลางถนนแล้วให้ผมนอนตักน้องเค้า ตอนนั้นซึ่งผมไม่ได้สติแล้วเกิดอาการเพ้อหลายๆอย่าง ร้องไห้บ้าง เรียกเพื่อนบ้าง เรียกหาพ่อแม่บ้าง ซักพักเพื่อนผมได้มาดูเหตุการณ์ ตำรวจเรียกรถพยาบาลมาแล้ว ผมได้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล โดยที่อาการตอนอยุ่บนรถโรงพยาบาล ผมได้มองทุกคนด้วยสาตาขวาง ถามก็ไม่ตอบ แต่ลืมตาอยู่ หมอก็เลยถามเพื่อนผม ว่า เด็กคนนี้ เมามั้ย เล่นยา หรือเป็นนักเลง ซึ่งเพื่อนผมน่าจะตอบไปว่าไม่ใช่ซักอย่าง พอถึงโรงพยาบาล ก็มีการปิดเลือดเช็ดแผลที่หัว และรอหมอผู้เชียวชาญ ด้านสอมงมั้ง 3 ชั่วโมง กว่าจะได้มาตรวจผม พ่อแม่ได้เดินทางจากพักลุง เพื่อมาดูผม ตอนนั้นผมไม่มีสติ เหลือแต่จิตใต้สำนึก และคำเพ้อที่พูดออกมา แบบไม่เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อนได้ไปเยี่ยมผมเยอะมาก ในคืนนั้นได้เกิดเรื่องขึ้น ยังไม่แน่อาการนี้ จะถึงขั้นผ่าตัดไหม แต่วันนี้ เพื่อนได้กลับจากดูผม ก็ตี 5 แหละ จนถึงเช้าวันใหม่







วันที่เหมือนฟังเรื่องราว
วันที่ 3 สิงหาคม 2554


             เช้า ของวันนี้ เป็นวันที่ผมไม่รู้สึกตัวๆ หมอบอกมีแต่จิตใต้สำนึก ไม่มีสติ ที่คิดอยู่ในขณะนั้น ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ผมต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีอาการสับสน กระวนกระวาย จากนั้นเหมือนเริ่มจะหมดแรง ร่างกายเริ่มหมดพลัง ซักพักก็นิ่งไปในที่สุด แล้วจากสังเกตุของหมอ คือ เริ่มมีอาการ มีอัมพาต ตัวซีกซ้ายของร่างกายไม่มีการขยับ หมอจึงได้บอกกับทางครอบครัว ว่าต้องผ่าตัดครั้งนี้ อย่างเร่งด่วน มีโอกาสจากการผ่าตัดครั้งนี้ 50-50   เวลาผ่าตัด ประมาณสามชั่วโมง ได้ผ่านไปได้ด้วยดี เวลาตอนเย็นผมได้ฟื้นขึ้นมา โดย มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ แต่ผมจำเหตุการไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ได้แต่ถามเหตุการคนอื่น และสิ่งที่อะไรต่างๆกับผม ทุกคน ก็ได้บอกผมว่าผมล้มรถ แหละมีอาการที่หนักมาก ผมก็ได้แค่พยักหน้า เพราะนึกไม่ออกว่าผมหนักขนาดไหน เพื่อนๆได้มากำลังใจเยอะมาก ญาติก็มาเยี่ยมกันเยอะ ผมจึงรู้สึกเสียใจลึกๆ ที่ทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วง แหละทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา พ่อแม่ก็ต้องมาเสียใจ
ผมจึงคิดว่าหลังจาก นี้ ต้องพยายามทำอะไรซักอย่างแหละระวังตัวมากกว่านี้ ต่อจากนี้ ต้องกินยา กินอาหาร ที่หมอสั่ง นอนพักผ่อนเยอะ เพราะตอนนี้ ยังมีอาการปวดหัวอยู่ตลอดเวลา แต่พอมีเพื่อนมาเยี่ยม ผมก็สามารถที่จะยิ้มแย้มกับเพื่อนได้ เหมือนเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ที่มีช่วงเวลา ที่ทุกคนได้มาช่วยเหลือคนๆหนึ่ง ที่ไม่ได้สนิทสนมมากมาย แต่เค้าพร้อมที่จะช่วยเหลือผมในวันที่ผมล้ม จึงรู้สึกว่าคำว่าเพื่อน นี่ยิ่งใหญ่มาก
                          
                                                                         ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน ครับ